เจิ้งส่วง (Zheng Shuang) นักแสดงสาวชาวจีนที่ได้รับความนิยมจากบทนำในซีรีส์เรื่อง Love O2O ถูกอดีตแฟนหนุ่มออกมาเปิดเผยว่า เธอเป็นแม่ของเด็ก 2 คน และเคยพยายามทำแท้งเด็กทั้ง 2 คนก่อนที่จะลืมตาดูโลก 

จางเหิง (Zhang Heng) อดีตแฟนหนุ่มของเธอเล่าว่าเขาพยายามไปอยู่สหรัฐฯ เพื่อปกป้องครอบครัวของเขา แต่เจิ้งส่วงไม่เห็นด้วย

“สวัสดี จางเหิงนะ ไม่ได้โพสอะไรมาซักพักแล้ว คงจะเห็นกันแล้วว่าผมขึ้นแบล็คลิสต์รายชื่ค้นหาอีกแล้ว หลังจากผ่านมาหลายปี การโจมตีบนอินเตอร์เน็ตเกิดขึ้นอีกครั้ง ครอบครัวของผมรู้สึกหมดหนทางกับปัญหาส่วนตัวของผม พวกเขาเหนื่อยและไม่สามารถใช้ชีวิตอย่างปกติได้ ทำให้เราไม่สามารถกลับมารวมตัวกันได้ ทำให้ผมรู้สึกไม่สบายใจมาก 

ผมรู้สึกว่าจะทนทำตัวไม่รู้สึกอะไรไม่ได้อีกแล้ว ผมเอาแต่หลบอยู่ไม่ได้อีกแล้ว เพราะผมไม่ใช่คนเดียวที่ต้องเจอกับเรื่องนี้ แต่ครอบครัวของผมก็ต้องเจอกับปัญหานี้เช่นกัน ผมตัดสินใจว่าจะไม่เงียบอีกต่อไป เพื่อปกป้องครอบครัวและตัวเอง ผมจะออกมาพูดความจริงบางอย่างให้ได้รับรู้ 

มีข่าวลือในอินเตอร์เน็ตว่าผมเป็นพวกต้มตุ๋น, กู้เงินนอกระบบ, มีหนี้จนต้องหนีมาอเมริกา ซึ่งทั้งหมดเป็นแค่ข่าวลือ ผมสาบานว่าไม่เคยทำแบบนั้นเลย 

ผมอาศัยอยู่ที่สหรัฐฯ และเหตุผลที่ผมต้องอยู่ที่นี่เป็นเวลามากกว่า 1 ปีแล้ว เพราะผมและครอบครัวอยากปกป้องชีวิตน้อยๆที่บริสุทธิ์ 2 ชีวิต การอยู่ที่นี่เป็นเรื่องที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ 

ผมจ้างทนายความเพื่อจัดการเรื่องทั้งหมดนี้ และผมเชื่อว่าความจริงจะเป็นสิ่งไม่ตายทั้งในศาลจีนและอเมริกา

สุดท้ายนี้ผมขอร้องให้สื่อและสาธารณะชนได้รับรู้ความจริง และอย่าหลงเชื่อข่าวลือบนอินเตอร์เน็ต” – จางเหิง

จางเหิงโพสข้อความดังกล่าวหลังจากมีข่าวลือว่าเขาหลอกลวง, ยืมเงินโดยใช้ชื่อของเจิ้งส่วง และหนีไปอเมริกาเพราะไม่มีเงินจ่ายหนี้ โดยทั้ง 2 คนนั้นก่อตั้งบริษัทด้วยกัน และหลังจากนั้นมีข่าวลือว่า จางเหิงหนีไปอเมริกาหลังจากทั้งคู่แยกทางกันในเดือนธันวาคม ปี 2019 

สิ่งที่น่าตกใจไม่ใช่แค่ข้อความข้างต้นของเขา แต่เป็นภาพของเขากับเด็ก 2 คนที่อยู่นอกบ้านของพวกเขาที่อเมริกา

แม่ของเด็กทั้ง 2 คน คือ เจิ้งส่วง ซึ่งเธอจ้างอุ้มบุญ จากนั้นมีเพื่อนของจางเหิง ได้ออกมาโพสภาพใบสูติบัตรของเด็กทั้ง 2 คน ทั้งคู่มีแม่ชื่อว่า เจิ้งส่วง เด็กคนหนึ่งเกิดโดยการอุ้มบุญในโคโลราโดเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม ปี 2019 และอีกคนเกิดที่เนวาดา วันที่ 4 มกราคม ปี 2020

อย่างไรก็ตาม เจิ้งส่วง ยังไม่ออกมายืนยันว่าเด็กทั้ง 2 คนเป็นลูกของเธอจริง แต่ว่า เจิ้งส่วง และ จางเหิง มีนัดไต่สวนหย่าร้าง เพื่อให้ศาลพิจารณาอำนาจในการเลี้ยงดูบุตร

เรื่องราวเลวร้ายขึ้น เมื่อมีการปล่อยบันทึกการสนทนา ที่ครอบครัวของเจิ้งส่วง และเจิ้งส่วงเอง ได้พยายามบอกว่าให้ทำแท้งเด็กทั้ง 2 คน โพสคลิปเสียงแรก เป็นเสียงที่พ่อของเจิ้งส่วง พูดว่า:

พ่อของเจิ้งส่วง: สิ่งที่เรากำลังพูดอยู่ตอนนี้คือ วิธีที่เราจะจัดการกับเด็ก เราคุยกันแล้ว…เราไม่ต้องการพวกเขา เพราะว่าตอนนี้พ่อแม่เขาแยกทางกันแล้ว ไม่มีคนเลี้ยงเด็กหรอก ไปบอกโรงพยาบาลว่าทำแท้งเถอะ” 

พ่อของเจิ้งส่วง: เราทำไม่ได้หรอก [การเลี้ยงเด็ก] คิดว่ามันง่ายเหรอ?

พ่อของเจิ้งส่วง: ไม่ ฉันกำลังบอกคุณว่า บอกพวกเขาว่า ถ้าเป็นไปได้ก็ทำแท้งเถอะ

พ่อของเจิ้งส่วง: เรื่องนี้ผิดกฎหมายในอเมริกา คุณไม่รู้เหรอ?

พ่อของเจิ้งส่วง: แล้วคุณจะทำยังไง คุณต้องทำ…[เสียงตัดไป] 

คลิปเสียงที่ 2 มีเสียงของแม่ของเจิ้งส่วง  และ เจิ้งส่วง และฝ่ายครอบครัวของจางเหิงอยู่ในนั้นด้วย:

พ่อของจางเหิง: ฉันทำแบบพวกเขาทั้ง 2 คนไม่ได้ [เจิ้งส่วง กับ จางเหิง]

พ่อของเจิ้งส่วง: พวกเขาคืนดีกันไม่ได้ เราก็เก็บเด็กทั้ง 2 คนไว้ไม่ได้เหมือนกัน

พ่อของจางเหิง: คุณหมายความว่าอย่างไรที่เก็บพวกเขาไว้ไม่ได้? นั่นไม่ใช่ปัญหาที่เราจะแก้ได้ในตอนนี้ 

พ่อของเจิ้งส่วง: จะเกิดอะไรขึ้นถ้าทำเรื่องส่งต่อให้สถานกำพร้าในอเมริกา?

แม่ของเจิ้งส่วง: เราปรึกษาทนายความเรื่องนั้น เรา…

พ่อของจางเหิง: อะไรคือการรับอุปการะในอเมริกา? ผมไม่เข้าใจ

เจิ้งส่วง: เราไม่เข้าใจเหมือนกัน พอคิดเรื่องนี้ ฉันเหมือนจะเป็นบ้าตั้งแต่ฉันอยากพูดเรื่องนี้กับจางเหิง ตอนนี้เขารู้แล้ว เขามีสิ่งที่เขาอยากทำเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ก่อนที่จะทำอะไร ช่วยเราแก้ปัญหาก่อน เราจะทำอย่างไรกับเด็กดี? ฉันกังวล [เพราะไม่มีความชัดเจน] ฉันก็อยากพูดว่า เราควรจะรับผิดชอบต่อสิ่งที่เราทำเหมือนกัน

พ่อของจางเหิง: ฉันเข้าใจสิ่งที่เธอกำลังพูด ไม่ว่าจางเหิงจะพูดอะไร ฉันจะไม่พูดมัน เขาบอกว่ามีเรื่องนั้น…

พ่อของเจิ้งส่วง: ถามพวกคนอเมริกันซิ พวกเขาน่าจะรู้เรื่องการทำแท้ง

เจิ้งส่วง: เราทำแท้งเด็กไม่ได้จริงๆเหรอ? นี่มันน่ารำคาญมาก

พ่อของเจิ้งส่วง: ถ้าทำแท้งไม่ได้ ก็หาคนอุปการะ

แม่ของเจิ้งส่วง: เรามีเหตุผลนะ เราปรึกษาทนายความแล้วเพราะมันเกี่ยวกับ 2 ชีวิต และทำแท้งไม่ได้ เพราะในต่างประเทศเขาให้ทำกันตอน 3 เดือน ไม่ใช่ 6 เดือน มีอยู่ทางเดียวคือ เด็กไม่สมบูรณ์ และพอเจิ้งส่วง และจางเหิงไม่ได้อยู่ด้วยกัน เรื่องราวมันก็อาจใหญ่โตขึ้น เราเลยบอกว่าอย่าเก็บเด็กไว้เลย อีกทางก็คงหาคนอุปการะ ให้เด็กเกิดและยกให้คนอื่น ส่วนทั้งคู่ [เจิ้งส่วง กับ จางเหิง] ก็ลืมมันไปซะ”

พ่อของเจิ้งส่วง: เราจะทำข้อตกลงกับคนที่จะรับพวกเขาไปเลี้ยง เราจะเขียนข้อตกลงอย่างไรบ้าง?

เจิ้งส่วง: อย่าคิดแค่ว่าหาคนอุปการะ…

แม่ของเจิ้งส่วง: พวกองค์กรอาจจะต้องการเงิน ถ้าต้องรับพวกเขาไป…

เจิ้งส่วง: ถ้าต้องจ่ายเงินให้องค์กร ก็จ่ายไปเถอะ

แม่ของเจิ้งส่วง: เธอจะไมได้เจอลูกอีก พอคนรับไปเลี้ยงแล้ว เขาก็ไม่อยากให้เด็กเติบโตขึ้น แล้วอยู่ๆก็รู้ว่า ‘นี่คือคนที่ให้กำเนิดฉัน’ ถ้าเด็กอายุ 20 แล้วอยู่ๆพ่อแม่แท้ๆก็ตามหาพวกเขา คนที่เลี้ยงพวกเขามาก็เหมือนไร้ความหมาย

ทางด้านเจิ้งส่วงได้ออกมาตอบสนองต่อข่าวดังกล่าว และโพสข้อความบน Weibo ของเธอ:

“นี่เป็นเรื่องที่ปวดใจและเรื่องส่วนตัว ตอนแรกฉันไม่อยากพูดอะไรมากต่อหน้าทุกคน แต่ตอนนี้ เรื่องราวถูกเปิดเผยออกมาแล้ว ฉันคิดถึงเรื่องนี้มาเป็นเวลานาน ตอนแรกฉันคิดว่าจะไม่บอกให้สาธารณะชนรู้ แต่ฉันไม่มีทางเลือกที่ต้องออกมาชี้แจง ตั้งแต่ปีก่อน ทนายความทั้งฝั่งจีนและอเมริกายังทำงานเพื่อปกป้องสิทธิของฉันและครอบครัว พวกเขาพูดคุยและเป็นตัวกลางในการเจรจากับอีกฝ่าย แต่ระหว่างที่อยู่ในขั้นตอนการดำเนินกฎหมายในจีน เราได้รับข้อความขู่ว่าจะเปิดเผยเรื่องส่วนตัวตลอด และในกระบวนการยุติธรรมในอเมริกา ฉันเองก็ได้เรียกร้องสิทธิในการเลี้ยงดูเช่นกัน 

ในฐานะศิลปิน ฉันต้องรับผิดชอบต่อการปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดต่อ และมาตรการควบคุม ฉันจะไม่ละเมิดกฎของแผ่นดินจีน และในต่างประเทศ ฉันก็เคารพกฎหมายของพวกเขาเช่นกัน

หากไม่มีการเรียกหลักฐานโดยเจ้าหน้าที่ให้ฉันเปิดเผยต่อสาธารณะชน นี่คงเป็นคำตอบที่ดีที่สุดที่ฉันสามารถพูดได้ในตอนนี้”

ที่มา: Weibo

แปลโดย  http://popcornfor2.com