หลังจากซีรีส์เรื่อง It's Okay To Not Be Okay ผลงานเรื่องใหม่ของ คิมซูฮยอน (Kim Soo Hyun) และ ซอเยจี (Seo Ye Ji) ออกอากาศ ก็ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดีจากแฟนคลับในเอเชียที่รับชมกันผ่านทาง Netflix เรื่องนี้ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง และขึ้นคำค้นหาหลายอันดับในเว็ป Naver TV โดยมีการค้นหาชื่อของ ซอเยจี อยู่ในอันดับ 3
เห็นได้ว่าหลายคนอยากรู้จักเธอมากขึ้นหลังจากได้เห็นฝีมือการแสดง ความสวย และเสียงต่ำที่มีเสน่ห์ของเธอ วันนี้เรามารู้จักกับนางเอกคนนี้ให้มากขึ้นกันอีกนิดจะดีกว่า
ซอเยจี เกิดเมื่อวันที่ 6 เมษายน ปี 1990 ชื่อของเธอหมายถึงคนที่มีวิสัยทัศน์อันชาญฉลาด ซอเยจีได้รับความนิยมมาตั้งแต่สมัยเป็นนักเรียนด้วยหน้าตาที่ดูดีมากของเธอ เธอป็อปปูล่ามากในโรงเรียน Youngshin High School
เธอสนใจโอริกามิ, วาดภาพ, ภาพยนตร์ และชอบไปคาเฟ่คนเดียว
ตอนที่เรียนชั้นมัธยม เสียงต่ำของเธอถือเป็นจุดเด่นของเธอเลย เสียงของเธอเข้ากับภาษาสเปน ทำให้เธอเริ่มเรียนภาษาสเปนและไปเที่ยวต่างประเทศคนเดียว
ชมวิดีโอซอเยจีพูดภาษาสเปนในวิดีโอข้างล่าง:
ตอนอายุ 20 ปี เธอได้ไปเรียนที่มหาวิทยาลัยในมาดริด เป็นเวลา 3 ปี
สำหรับเรื่องความสวยนั้น ถ่ายทอดกันมารุ่นสู่รุ่น คุณแม่และพี่สาวของเธอเป็นแอร์โฮสเตส แต่ซอเยจีเลือกเรียนวารสารศาสตร์ เธออยากเป็นผู้ประกาศข่าว
ช่วงอายุ 20 ซอเยจีกลับมาที่เกาหลีเป็นครั้งคราว และตอนนั้นเธอถูกแมวมองติดต่อ และเสนองานแสดงให้ ถึงแม้จะลังเลในครั้งแรก แต่เธอก็ตอบตกลงในที่สุด ต้นสังกัดให้เธอทำงานก่อน 3 เดือน และถ้าไม่ชอบจะหยุดหลังจากนั้นก็ได้
ซอเยจีเป็นนางแบบให้กับบริษัทโทรคมนาคม เมื่อปี 2013 จากนั้นเธอร่วมแสดงในซีรีส์ซิทคอมเรื่อง Potato Star ของโปรดิวเซอร์ คิมบยองอุค ทั้งหมด 120 ตอน เธอได้เรียนรู้การแสดงจากพีดีคิม
จากนั้นเธอได้ร่วมงานกับซีรีส์เรื่อง The Night Watchman ซึ่งโชว์ทักษะการแสดงในซีรีส์แนวประวัติศาสตร์ ต่อด้วย Hwarang: The Poet Warrior Youth ในบทของเจ้าหญิงซุกมยอง
ซอเยจีมีงานโฆษณามากมาย ด้วยลุคที่ดูสบายตาของเธอทำให้ดึงดูดสินค้าหลายชิ้น รวมถึงเคยร่วมงานกับจี-ดราก้อนอีกด้วย
ซีรีส์ที่ไม่ควรพลาดของซอเยจีมีหลายเรื่อง ทั้ง Save Me เมื่อปี 2017 ที่เธอได้ร่วมงานกับ แทคยอน วง 2PM และ อูโดฮวาน
ต่อด้วยเรื่อง The Lawless Lawyer ที่เธอรับบทนำคู่กับ อีจุนกิ ซึ่งเรื่องนี้ก็สนุกและซอเยจีได้รับคำชมถึงทักษะการแสดงที่พัฒนาขึ้นของเธอ
และตอนนี้เธอกลับมาอีกครั้งในบทของนักเขียนนิทานเด็กที่มีนิสัยต่อต้านสังคมในซีรีส์เรื่อง It's Okay to Not Be Okay ซึ่งจะทำให้คุณประทับใจทั้งเอฟเฟคพิเศษ, เนื้อเรื่อง และเคมีระหว่างคู่พระ-นาง