7 ซีรีส์เกี่ยวกับการคอร์รัปชั่นที่จะทำให้คุณหัวหมุน
2020-04-30 08:52:04
Advertisement
คลิก!!!

แฟนซีรีส์เกาหลีส่วนใหญ่อาจจะชื่นชอบซีรีส์โรแมนติกที่ทำให้หัวใจเต้นแรง ถึงแม้ว่าเนื้อเรื่องอาจจะเต็มไปด้วยเรื่องราวการเข้าใจผิดต่างๆ นานา, ความสัมพันธ์แบบทั้งรักทั้งเกลียดและตัวละครที่ปฏิเสธว่าพวกเขาชอบใครบางคนทั้งที่ตัวเองหลงรักเขาหัวปักหัวปำ บางคนอาจจะเริ่มเบื่อกับเรื่องราวความรักเหล่านี้และเริ่มหันมาสนใจซีรีส์เกี่ยวกับอาชญากรรมและเรื่องราวการคอร์รัปชั่นแทน ซึ่งเป็นซีรีส์ที่น่าสนใจเช่นกัน

ดังนั้นสำหรับใครที่กำลังมองหาซีรีส์เกี่ยวกับการคอร์รัปชั่น นี่คือรายชื่อซีรีส์ที่น่าสนใจที่เต็มไปด้วยเรื่องราวน่าทึ่งและลึกลับที่คุณอาจจะกำลังต้องการหาซีรีส์ไว้ดูในเวลาว่างก็ได้

  • Chief Kim

คิมซองรยอง (รับบทโดยนัมกุงมิน - Namgoong Min) มีเป้าหมายเดียวในชีวิตของเขา นั่นก็คือการเก็บเงินเพื่อย้ายไปที่ประเทศเดนมาร์ก วันหนึ่งโอกาสทองของเขาก็มาถึง เขาได้กลายเป็นหัวหน้าของแผนกบัญชีในบริษัทใหญ่ ในขณะที่เขาวางแผนการเพื่อที่จะโกงเงินออกมาเงียบๆ โดยใช้ทักษะเรื่องการบัญชีเพื่อทำตามความฝันของเขา เขาก็พบว่าตัวเองได้เข้าไปพัวพันกับเครือข่ายของการคอร์รัปชั่นที่ซับซ้อนภายในบริษัทและถูกบังคับให้เลือกระหว่างการทำสิ่งที่ถูกต้องกับสิ่งที่จะทำให้ชีวิตที่เดนมาร์กของเขาเป็นจริงง่ายขึ้น

ในขณะที่เรื่อง “Chief Kim” มีเนื้อเรื่องที่จริงจังและรวมไปถึงเรื่องราวต่างๆ อย่างการพยายามฆ่าและผู้บริหารที่น่าสงสัย แต่ซีรีส์ก็ไม่ค้างอารมณ์เหล่านั้นไว้นานและมักจะเปลี่ยนอารมณ์ฉากที่ควรเข้มข้นและจริงจังเป็นอะไรที่ตลกแทน และทำให้ทุกคนอดหัวเราะออกมาไม่ได้

ถ้าคุณกำลังมองหาเรื่องราวการสมคบคิด, เรื่องตลกๆ และความโรแมนติกเล็กน้อยดูล่ะก็ ขอแนะนำให้ลองดูเรื่อง “Chief Kim” เลย

  • Watcher

คิมยองกุน (รับบทโดยซอคังจุน - Seo Kang Joon) เป็นเจ้าหน้าที่สายตรวจผู้ไม่ลังเลเลยที่จะต่อต้านผู้บังคับบัญชา บางทีอาจจะมีสาเหตุมาจากการที่เขาได้เห็นเหตุการณ์ที่พ่อของเขาฆาตกรรมแม่ของตัวเองก็ได้ ซึ่งความบอบช้ำในวัยเด็กนั้นก็ตามหลอกหลอนเขามาจนถึงทุกวันนี้ การรังเกียจการใช้อำนาจกับคนอื่นทำให้ไม่น่าแปลกใจเลยที่ยองกุนไปเข้าร่วมหน่วยงานต่อต้านการคอร์รัปชั่นที่มีเป้าหมายในการจับตำรวจเลวๆ ร่วมกับนักสืบโดชีกวาง (รับบทโดยฮันซอกกยู - Han Suk Kyu) ผู้ที่เคยทำงานกับพ่อของเขามาก่อน

จากนั้นก็มีอัยการลึกลับคนหนึ่งที่มาทำงานเป็นทนายคดีอาชญากรรม เธอโด่งดังกับความเจ้าเล่ห์ของเธอและการทำงานร่วมกับอาชญากรชื่อดังหลายคน และก็เหมือนเป็นโชคชะตาที่เธอมีความเกี่ยวข้องกับพ่อของยองกุนเช่นกันและมีประสบการณ์ความบอบช้ำในอดีตของเธอมาเกี่ยวข้องด้วย

ซีรีส์เรื่องนี้ได้รับความนิยมอย่างมาก ด้วยการสอบสวนที่ใช้กำลัง, การขับรถไล่ล่ากัน, การพยายามฆ่าและเหตุการณ์ทั้งหมดล้วนเกิดขึ้นในตอนแรก ทำให้ใครๆ ต่างก็อยากติดตามเรื่องนี้ต่อ ซึ่งคำถามก็คือการคอร์รัปชั่นที่เกิดขึ้นในซีรีส์เรื่อง “Watcher” มันไปได้ถึงขนาดไหน?

  • The Cursed

คุณจะทำอย่างไรหากมีเด็กนักเรียนมัธยมบอกคุณว่าเธอสามารถสาปแช่งคนอื่นได้ด้วยการใช้เพียงรูปถ่ายของพวกเขา, ข้าวของส่วนตัวและชื่อภาษาจีนของพวกเขาเท่านั้น? คุณอาจจะเดินหนีไปเหมือนกับนักข่าวอิมจินฮี (รับบทโดยออมจีวอน - Uhm Ji Won) ที่ถูกเข้าหาครั้งแรกจากโซจิน (รับบทโดยจองจีโซ - Jeong Ji So) เด็กสาวที่อ้างว่าเธอสามารถสาปแช่งให้คนอื่นตายได้

แต่เพียงไม่นานจินฮีก็รู้ว่าโซจินอาจจะไม่ใช่แค่เด็กวัยรุ่นขี้เบื่อที่สร้างเรื่องขึ้นมา และอาจจะมีเรื่องชั่วร้ายบางอย่างกำลังเกิดขึ้นก็ได้ ท้ายที่สุดแล้วทั้ง 2 คนก็ร่วมมือกันเพื่อจัดการปีศาจร้ายและบริษัท IT ยักษ์ใหญ่ลงได้

ถึงแม้ว่าเรื่องนี้จะมีความมืดมนและน่ากลัวรวมถึงมีความสยองขวัญอยู่ด้วยในบางครั้ง แต่เรื่องราวส่วนใหญ่ก็ไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น ซีรีส์เรื่องนี้สร้างบรรยากาศที่ทำให้รู้สึกไม่สบายใจและรบกวนจิตใจมากกว่า ซึ่งรวมถึงหลายๆ ฉากที่แสดงถึงพิธีกรรมแปลกๆ และการใช้ความรุนแรงเช่นกัน ผู้ชมควรใช้วิจารณญาณในการรับชม

  • My Fellow Citizens

ยางจองกุก (รับบทโดยชเวซีวอน - Choi Siwon แห่ง Super Junior) มาจากครอบครัวนักต้มตุ๋น ปกติแล้วการหลีกเลี่ยงตำรวจเป็นเรื่องธรรมชาติที่จองกุกทำ แต่นักต้มตุ๋นควรทำอย่างไรเมื่อภรรยาที่เขาแต่งงานด้วย (รับบทโดยอียูยอง - Lee Yoo Young) และเธอไม่เคยรู้อะไรเกี่ยวกับอาชีพที่แท้จริงของเขาเลยกลับสารภาพกับเขาอย่างกะทันหันว่าเธอเป็นตำรวจ

ความเป็นมืออาชีพของภรรยาของเขาไม่ใช่เพียงเรื่องเดียวที่เป็นปัญหาของจองกุก แต่การหลอกเงิน 1 ล้านดอลล่าร์มาจากนักธุรกิจที่ร่ำรวยแต่ทุจริตก็ไม่ใช่ความคิดที่ดีเช่นกัน ความจริงอันโชคร้ายที่จองกุกได้เรียนรู้ก็คือการที่ลูกสาวของนักธุรกิจ (รับบทโดยคิมมินจอง - Kim Min Jung) ตามล่าเขา แต่แทนที่จะฆ่าเขาอย่างที่ใครหลายๆ คนคิด เธอกลับต้องการให้เขามาเป็นสมาชิกสว.เพื่อสนับสนุนเรื่องการเมืองให้เธอ

ในขณะที่ “My Fellow Citizens” ไม่ใช่เรื่องที่ตราตรึงใจหรือน่าสนใจที่สุดในรายชื่อซีรีส์นี้ แต่ก็เป็นเรื่องราวเบาสมองและมีความโรแมนติกเล็กๆ ด้วยเช่นกัน โดยรวมแล้วก็เป็นซีรีส์ที่ดูได้สบายๆ กับซีนตลกๆ ที่จะทำให้คุณผ่อนคลายได้

  • Memorist

ซีรีส์เรื่องนี้สร้างมาจากเว็บตูนเรื่องดังชื่อเรื่องเดียวกัน เรื่องราวของ “Memorist” โฟกัสไปที่ดงแบค (รับบทโดยยูซึงโฮ - Yoo Seung Ho) สายสืบที่มีความสามารถในการสแกนความทรงจำของผู้คนเมื่อใดก็ตามที่เขาสัมผัสคนเหล่านั้น ในขณะที่พลังเหนือธรรมชาตินี้ทำให้เขามีความสำคัญที่ประเมินค่าไม่ได้ในการจับคนผิด แต่เขาก็ค่อนข้างคาดเดาไม่ได้เช่นกันเมื่อเขามักจะใช้ความรุนแรงระหว่างการสอบสวนของเขา

และยังมีฮันซอนมี (รับบทโดยอีเซยอง - Lee Se Young) นักวิเคราะห์อาชญากรผู้มุ่งมั่นและไม่เกรงกลัวใครอีกด้วย ถึงแม้ทั้งสองคนมักจะปะทะกันอยู่เสมอ แต่ดงแบคและซอนมีก็ต้องทำงานร่วมกันเมื่อมีคดีฆาตกรรมเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งคู่ถูกจุดประกายความมุ่งมั่นต่อการจับฆาตกรและการตามหาความยุติธรรม แน่นอนว่ายิ่งมีคดีเกิดขึ้นมากเท่าไหร่ คำถามที่ตามมาก็ยิ่งมากเท่านั้นและทำให้ทุกคนอินไปกับเรื่องราวด้วยเช่นกัน

การดำเนินเรื่องที่รวดเร็วและเข้มข้นของ “Memorist” นั้นน่าประทับใจและทำให้ซีรีส์เรื่องนี้ดูเหมือนเป็นภาพยนตร์ระทึกขวัญมากกว่าซีรีส์ทางทีวีธรรมดาๆ และในขณะที่ภาพรวมของเรื่องนั้นค่อนข้างมืดมน เช่น การฆาตกรรมที่เป็นส่วนขับเคลื่อนหลักของเนื้อเรื่อง แต่ก็ยังมีฉากตลกๆ แทรกเข้ามาบ้างเพื่อช่วยลดความตึงเครียดในเรื่อง แน่นอนว่าซีรีส์เรื่องนี้เป็นเรื่องหนึ่งที่น่าตื่นเต้นและเราแทบรอไม่ไหวที่จะได้ดูตอนจบในสิ้นเดือนนี้แล้ว!

  • Doctor Prisoner

“Doctor Prisoner” บอกเล่าเรื่องราวของนาอีเจ (รับบทโดยนัมกุงมิน) เขาเป็นหมอฉุกเฉินในโรงพยาบาลชื่อดังของโซล น่าเสียดายที่หลังจากเขามีปัญหากับลูกชายของผู้บริหารโรงพยาบาล อีเจก็ถูกไล่ออกและตามแก้แค้นต่อระบบที่บิดเบี้ยวอย่างชัดเจน หลังจากนั้น 3 ปีเขาก็ได้กลายมาเป็นผู้อำนวยการด้านการแพทย์ในคุก ซึ่งเป็นตำแหน่งที่เขาวางแผนจะใช้เป็นส่วนหนึ่งของการแก้แค้นและเปิดโปงความจริงเบื้องหลังการถูกไล่ออกที่ไม่ยุติธรรมของเขา

แต่ในการจะทำแผนของเขาให้สำเร็จ อีเจต้องวางศีลธรรมทิ้งไปและใช้กลยุทธ์เดียวกับคนคดโกงที่เขาอยากทำลาย ความยุติธรรมที่มาจากความเป็นอธรรมจะสามารถเอาชนะได้หรือไม่ หรืออีเจจะต้องใช้ชีวิตเป็นตัวร้ายแบบนี้ไปตลอดกันแน่?

“Doctor Prisoner” ทำให้ใครหลายๆ คนประทับใจนัมกุงมินเป็นอย่างมาก ซีรีส์เรื่องนี้เหมือนกำลังพาคุณนั่งรถไฟเหาะด้วยการพลิกเรื่องราวในทุกๆ ตอน และเช่นเดียวกับคิมบยองชอล (Kim Byung Chul) ที่แสดงได้อย่างดีจนทำให้ทุกคนหงุดหงิดไปกับตัวละครของเขาเหมือนกับผลงานของเขาในเรื่อง “SKY Castle” ไม่มีผิด

  • Children of Nobody

“Children of Nobody” เป็นเรื่องราวของชาอูคยอง (รับบทโดยคิมซอนอา - Kim Sun Ah) นักจิตวิทยาเด็กที่มีความเกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุรถยนต์แปลกๆ ที่ทำให้เธอเดินทางไปสู่การเปิดเผยเหตุการณ์ลึกลับหลายเหตุการณ์ที่เชื่อมโยงไปสู่การใช้ความรุนแรงกับเด็กและแม้กระทั่งการฆาตกรรม ยิ่งเธอตรวจสอบเจอเรื่องราวเหล่านี้มากเท่าไหร่ ความน่ากลัวของเรื่องราวต่างๆ ก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น

ในขณะเดียวกันนักสืบคังจีฮัน (รับบทโดยอีอีคยอง - Lee Yi Kyung) ก็พบว่าตัวเองถูกดึงดูดให้สนใจเรื่องเหตุการณ์แปลกๆ เหล่านี้มากขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน ซึ่งส่วนหนึ่งมีสาเหตุมาจากความหมกมุ่นของอูคยองกับคดีใหม่ๆ แต่ละคดี ถึงแม้บางครั้งเขาจะไม่อยากเชื่อเธอ แต่เขาก็ไม่สามารถเพิกเฉยต่อเรื่องที่เธอบอกได้ และบางทีอาจจะมีความอยุติธรรมบางอย่างที่รอการเปิดเผยอยู่ก็เป็นได้

“Children of Nobody” ทั้งสะเทือนอารมณ์และถ่ายทอดออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมผ่านการแสดงของนักแสดงทุกคน ซีรีส์เรื่องนี้ยังถามเราอยู่เรื่อยๆ ว่าเราจะตามหาคำตอบของคำถามที่ไม่มีใครถามหรือไม่ ยกตัวอย่างเช่น เราจะทำเป็นไม่รับรู้การทุกข์ทรมานของเด็กที่ไม่มีพ่อแม่หรือไม่? ซีรีส์เรื่องนี้อาจจะย่อยยากและพูดถึงหัวข้อที่เป็นประเด็นอ่อนไหว แต่มันคุ้มค่ากับการติดตามมาก

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X