ทำความรู้จักพร้อมผลงานของ แบดูนา (Bae Doo Na) นักแสดงนำซีรีส์ Kingdom
2020-03-02 09:55:56
Advertisement
คลิก!!!

เบดูนา เกิดเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 1979 เธอเป็นนักแสดงและช่างภาพจากเกาหลีใต้ เธอเริ่มเป็นที่รู้จักนอกเหนือจากเกาหลีใต้ในบทนักกิจกรรมทางการเมืองจากเรื่อง Sympathy for Mr. Vengeance (ในปี 2002) ผลงานของผู้กำกับพัคชานอุค (Park Chan Wook) และบทบาทนักยิงธนูพัคนัมจูจากเรื่อง The Host (ในปี 2006) ผลงานของผู้กำกับบงจุนโฮ (Bong Joon Ho) และบทบาทตุ๊กตายางสาวที่มีชีวิตจริงขึ้นมาจากเรื่อง Air Doll (ในปี 2009) ผลงานของผู้กำกับฮิโรคาสุ โครีดะ (Hirokazu Koreeda) เธอมีผลงานการแสดงในภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดเรื่อง Cloud Atlas (ในปี 2012), Jupiter Ascending (ในปี 2015) และผลงานซีรีส์ทางทีวีเรื่อง Sense8 (ในปี 2015–2018) ของผู้กำกับพี่น้องชาวอเมริกา Wachowski โดยผลงานล่าสุดของเธอคือซีรีส์ซอมบี้ย้อนยุคเรื่อง Kingdom (ในปี 2019–ปัจจุบัน) ทาง Netflix

เริ่มเข้าวงการ

เบดูนาเกิดที่เมืองโซลในเกาหลีใต้ เธอเติบโตมาด้วยการติดตามแม่ของเธอ คิมฮวายอง (Kim Hwa-young) นักแสดงละครเวทีไปที่โรงละครเวทีและห้องซ้อมเสมอ เธอจึงได้เรียนรู้บทพูดต่างๆ ไปด้วย แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่เริ่มพาเบดูนาเข้าสู่วงการนักแสดง เธอบอกว่า “คนอาจจะพูดว่าเพราะแม่ของฉันเป็นนักแสดงละครเวที ฉันจึงมาเป็นนักแสดง แต่สำหรับฉันแล้ว ประสบการณ์เหล่านั้นอาจจะให้ผลลัพธ์ที่ตรงกันข้ามค่ะ ในทางตรงข้าม เป็นเพราะฉันเห็นนักแสดงเก่งๆ ที่แสดงกับแม่ฉันมากมาย ฉันจึงคิดว่าอาชีพนี้เป็นอาชีพที่คนมีความสามารถยอดเยี่ยมเท่านั้นที่จะทำได้ค่ะ”

บทบาทอาชีพ

เบดูนากำลังศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยฮันยางในปี 1998 ตอนที่เธอถูกชักชวนโดยสังกัดโมเดลลิ่งที่มีชื่อเสียงในโซล การชักชวนครั้งนี้นำพาเธอเข้าไปเป็นนางแบบเสื้อผ้าให้กับแคตตาล็อกรายการสินค้าของแบรนด์ COOLDOG และอื่นๆ อีกมากมาย

ต่อมาในปี 1999 เธอก็เริ่มเปลี่ยนสายงานมาในวงการนักแสดงก่อนจะจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮันยาง เธอเดบิวต์ผลงานการแสดงในซีรีส์เรื่อง School หลังจากปีนั้น เธอก็มีผลงานการแสดงในบทผีสาวจากเรื่อง The Ring Virus ภาพยนตร์ฉบับเกาหลีที่รีเมคมาจากภาพยนตร์เรื่อง Ring ของญี่ปุ่น

ในปี 2000 ผู้กำกับบงจุนโฮได้เลือกเบดูนาให้มาแสดงในภาพยนตร์เรื่อง Barking Dogs Never Bite เพราะเธอยอมแสดงในฉากที่ไม่แต่งหน้าด้วยความสมัครใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่นักแสดงเกาหลีคนอื่นอาจจะไม่เต็มใจทำ

ต่อมาเบดูนาก็พูดถึงบทบาทในเรื่องนี้ว่าเป็นสิ่งที่ผลักดันให้เธอวิ่งไล่ตามอาชีพนักแสดงอย่างจริงจังมากขึ้นว่า

“ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้ฉันตัดสินใจที่จะเป็นนักแสดง – นักแสดงที่ดีค่ะ – และภาพยนตร์เรื่องนี้เปลี่ยนชีวิตฉันเลยค่ะ”

ในภาพยนตร์สารคดีชีวิตของคิมโซยอง (Kim So Young) เรื่อง Women's History Trilogy (2000–2004) เบดูนาบอกว่า

เธอชื่นชมยุนจองฮี (Yoon Jeong-hee) นักแสดงผู้มากประสบการณ์ และในภาพยนตร์เรื่องเดียวกัน เบดูนาก็บอกว่าฉากที่น่าจดจำที่สุดของเธอคือฉากที่เธอถูกไล่ตามโดยชายไร้บ้านในอพาร์ทเมนต์จากเรื่อง Barking Dogs Never Bite ซึ่งในปีนี้ เธอมีผลงานการแสดงอีโรติก (ถึงแม้จะมีการใช้นักแสดงแทนในฉากที่เข้มข้นก็ตาม) ในภาพยนตร์เรื่อง Plum Blossom และเริ่มมีผลงานการแสดงทางทีวีมากขึ้น

 

ตามมาด้วยผลงานเรื่อง Take Care of My Cat ในปี 2001กำกับโดยจองแจอึน (Jeong Jae Eun) และเรื่อง Sympathy for Mr. Vengeance ในปี 2002 กำกับโดยพัคชานอุค (Park Chan Wook)

ในปี 2003 ทั้งผลงานเรื่อง Tube และเรื่อง Spring Bears Love ของเธอมีรายได้ที่น่าผิดหวัง หลังจากเธอถ่ายภาพหลักของภาพยนตร์เรื่อง Spring Bears Love เบดูนาก็ตัดสินใจพักงานในวงการภาพยนตร์โดยบอกว่า

 

“ฉันไม่เคยใช้ชีวิตด้วยการไม่มีอะไรทำซักวันเลยค่ะ วินาทีที่ภาพยนตร์ออกฉายกับสื่อ ส่วนใหญ่ฉันก็ถ่ายทำเรื่องใหม่เรียบร้อยแล้วค่ะ ฉันคิดกับตัวเองว่า: ตอนนี้วงจรแรกจบแล้วจริงๆ ในขณะที่ฉันพักสักนิด ฉันก็จะอยากเริ่มต้นใหม่อย่างสดชื่นค่ะ”

ในช่วงที่เธอพักงานภาพยนตร์ เบดูนากลับไปรับงานถ่ายแบบ ผลงานหนึ่งที่เห็นได้ก็คือบล็อกที่เผยแพร่หนังสือรวมภาพถ่ายของเธอ เธอยังรับงานแสดงทางทีวีด้วยเช่นกัน โดยเธอมีผลงานแสดงเรื่อง Country Princess และเรื่อง Rosemary อีกทั้งเบดูนายังมีผลงานละครเวทีในปี 2004 เรื่อง Sunday Seoul ซึ่งร่วมเขียนบทโดยพัคชานอุคด้วย

 

ในปี 2005 เบดูนาแสดงบทนักเรียนแลกเปลี่ยนที่เข้าร่วมวงดนตรีในภาพยนตร์ญี่ปุ่นเรื่อง Linda Linda Linda จากนั้นก็แสดงบทหญิงสาวที่หย่ากับสามีในซีรีส์เรื่อง Beating Heart

 

เธอกลับมาร่วมงานกับบงจุนโฮอีกครั้งในปี 2006 กับผลงานเรื่อง The Host ซึ่งกลายเป็นภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จเรื่องรายได้สูงสุดในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์เกาหลี โดยการรับบทในเรื่องนี้ เธอฝึกเล่นธนูเป็นเวลาหลายเดือน

จากนั้นเธอก็กลับมามีผลงานทางหน้าจอทีวีอีกครั้งในซีรีส์เรื่อง Someday และเรื่อง How to Meet a Perfect Neighbor

หลังจากได้รับรางวัลจากผลงานการแสดงในเรื่อง Air Doll ภาพยนตร์ญี่ปุ่นในปี 2009 จากผลงานการกำกับของฮิโรคาสุ โครีดะเกี่ยวกับตุ๊กตายางที่มีชีวิตขึ้นมาและมีความรัก

 

เบดูนาก็กลับมามีผลงานทางจอทีวีอีกครั้งในปี 2010 โดยการรับบทเป็นครูในโรงเรียนมัธยมเรื่อง Master of Study และรับบทเป็นนักร้องในคลับเรื่อง Gloria

ผลงานภาพยนตร์เกี่ยวกับกีฬาเรื่อง As One ของเธอในปี 2012 สร้างจากเรื่องจริงของการแข่งขันปิงปองระดับโลกในปี 1991 ที่จัดขึ้นในเมืองชิบะ ประเทศญี่ปุ่นซึ่งมีผู้แข่งชันชาวเกาหลีเหนือ รีบอนฮุย (Ri Bun Hui) และผู้แข่งขันชาวเกาหลีใต้ ฮยอนจองฮวา (Hyun Jung Hwa) สามารถเอาชนะทีมจากประเทศจีนได้ เบดูนาและฮาจีวอน (Ha Ji Won) นักแสดงร่วมของเธอได้รับการสอนและฝึกซ้อมกับฮยอนจองฮวาโดยตรง และเบดูนาก็ฝึกใช้มือซ้ายในการเล่นเหมือนกับรีบอนฮุยด้วย หลังจากนั้นเธอก็ได้ไปปรากฏตัวสั้นๆ ในภาพยนตร์นิยายวิทยาศาสตร์เรื่อง Doomsday Book

เบดูนามีผลงานการแสดงเรื่อง Cloud Atlas ในฮอลลีวู้ดเป็นเรื่องแรกกับบทซอนมี~451 หุ่นยนต์จากเกาหลี และเธอยังรับบทเล็กๆ เป็น Tilda Ewing ภรรยาของนักรณรงค์เรื่องการเลิกทาสในภาพยนตร์ยุคก่อนสงครามกลางเมืองอเมริกา และรับบทหญิงสาวชาวเม็กซิกันที่กลายมาเป็นนักฆ่า

โดยภาพยนตร์เรื่อง Cloud Atlas กำกับโดยพี่น้อง Wachowskis และ Tom Tykwer ใช้ทุนสร้างกว่า 100 ล้านดอลล่าร์และดัดแปลงมาจากนวนิยายของ David Mitchell มีการฉายรอบปฐมทัศน์ที่งาน 2012 Toronto International Film Festival ซึ่งกระแสตอบรับในงานแตกเป็นหลายเสียงออกไป แต่การแสดงของเบดูนานั้นก็ได้รับคำชมจากนักวิจารณ์

เบดูนากลับมามีผลงานการแสดงในเกาหลีด้วยภาพยนตร์เรื่อง A Girl at My Door ในปี 2014 กำกับโดยจูลี่จอง (July Jung) และร่วมอำนวยการผลิตโดยอีชางดง (Lee Chang Dong) ในการรับบทเจ้าหน้าที่ตำรวจในเมืองเล็กๆ ที่พยายามช่วยเหลือเด็กสาวที่เธอสงสัยว่าตกเป็นเหยื่อการใช้ความรุนแรงในครอบครัว เบดูนาบอกว่าเธอประทับใจกับเนื้อเรื่องและบทบาทที่ท้าทายเรื่องการใช้อารมณ์จนเธอตัดสินใจรับงานแสดงในเรื่องนี้ทันทีหลังจากอ่านบทไป 3 ชั่วโมง ภาพยนตร์เรื่องนี้มีการฉายรอบปฐมทัศน์ในส่วน  Un Certain Regard ของงาน 2014 Cannes Film Festival และภายหลังเบดูนาก็ได้รับรางวัลนักแสดงหญิงยอดเยี่ยมในงาน Asian Film Awards จากผลงานการแสดงของเธอด้วย

ในปี 2015 เธอร่วมงานกับพี่น้อง Wachowski ในภาพยนตร์เกี่ยวกับอวกาศเรื่อง Jupiter Ascending ซึ่งเธอรับบทรองเล็กๆ เป็นนักล่าเงินรางวัล

 

หลังจากนั้นเธอก็มีผลงานซีรีส์แนวนวนิยายวิทยาศาสตร์ของอเมริกาเรื่อง Sense8 ที่กำกับโดยพี่น้อง Wachowski และร่วมเขียนบทโดย J. Michael Straczynski ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับคนแปลกหน้า 8 คนจากวัฒนธรรมที่แตกต่างกันและเป็นส่วนหนึ่งของโลกนี้ที่ค้นพบว่าพวกเขาสามารถสื่อสารถึงกันทางโทรจิตได้ ซึ่งซีรีส์เรื่องนี้เริ่มออกอากาศทาง Netflix ในปี 2015

จากนั้นเบดูนาก็มีผลงานในภาพยนตร์ทางอินเตอร์เน็ตความยาว 90 นาทีที่กำกับโดยพี่ชายของเธอ เบดูฮัน (Bae Doo Han) ในชื่อเรื่อง Red Carpet Dream ซึ่งเป็นภาพยนตร์เกี่ยวกับชีวประวัติของเบดูนาเรื่องความฝันในการเป็นนักแสดงช่วงที่เธอยังเด็กและอาชีพนักแสดงตลอด 20 ปีของเธอ ซึ่งภาพยนตร์ก็ได้ร่วมฉายในงาน Busan International Film Festival รวมถึงฉายผ่านช่องทาง Facebook และช่องเคเบิ้ล CGV เนื่องในโอกาสครบรอบ 20 ปีของงานและจากความสนับสนุนของแบรนด์เครื่องสำอาง MAC Cosmetics

เบดูนากลับมารับผลงานภาพยนตร์อีกครั้งโดยแสดงร่วมกับฮาจองอู (Ha Jung Woo) ในภาพยนตร์ดราม่าเอาชีวิตรอดเรื่อง The Tunnel

จากนั้นเธอก็ร่วมงานกับผู้กำกับชาวญี่ปุ่นชุนจิ อิวาอิ (Shunji Iwai) และนักแสดงคิมจูฮยอก (Kim Joo Hyuk) ในภาพยนตร์สั้นเรื่อง Chang-ok's Letter

เบดูนากลับมามีผลงานทางทีวีเกาหลีในปี 2017 ด้วยซีรีส์ลึกลับระทึกขวัญเรื่อง Stranger ในบทเจ้าหน้าที่ตำรวจไฟแรง ซีรีส์เรื่องนี้ได้รับความนิยมและได้รับคำวิจารณ์ที่ดีจากเนื้อเรื่องที่กระชับ, การจัดลำดับของเรื่องที่ยอดเยี่ยมและการแสดงที่เข้มข้น

ในเดือนมิถุนายน 2018 เบดูนาเป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญจากวงการภาพยนตร์ของเกาหลีที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมสถาบันศิลปะภาพยนตร์และวิทยาศาสตร์ (Academy of Motion Picture Arts and Sciences - AMPAS) ในปีเดียวกัน เธอก็มีผลงานการแสดงในภาพยนตร์อาชญากรรมระทึกขวัญเรื่อง The Drug King และเธอยังร่วมแสดงในซีรีส์ซอมบี้เรื่อง Kingdom ทาง Netflix และซีรีส์โรแมนติกเรื่อง Matrimonial Chaos ที่รีเมคมาจากซีรีส์ของญี่ปุ่นในชื่อเดียวกันอีกด้วย

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X