ล่าสุด SBS News รายงานข่าวเรื่องสาวกของลัทธิชินชอนจิในเมืองแดกูที่ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อไวรัส COVID-19 แต่ไม่ยอมบอกพ่อแม่ของเธอว่าเธอไปเข้าร่วมลัทธิมา

SBS News รายงานว่า “มีกรณีหนึ่งที่สาวกลัทธิชินชอนจิได้รับการยืนยันแล้วว่าติดเชื้อ COVID-19 แต่ไม่ยอมบอกพ่อแม่ของเธอ” และเปิดเผยข้อความแชทที่เธอพูดคุยกับเพื่อนร่วมลัทธิของเธอ

จากการรายงาน สาวก A เป็นหัวหน้าสาวกในสาขาแดกู ในขณะที่สาวก B เป็นหญิงสาวที่ระบายให้ฟังว่าพ่อแม่ของเธอกำลังจะจับได้แล้วว่าเธอไปเข้าร่วมลัทธิมา

ข้อความในแชทมีดังนี้

“A: เป็นเพราะเธอได้รับการยืนยันว่าติดไวรัสหรอ?

B: ใช่ ทันทีที่ฉันบอกพวกเขาเรื่องนั้น พวกเขาแทบบ้าเลย

A: บอกพวกเขาว่าไม่จริงสิ

B: แม่ฉันร้องไห้อยู่ข้างนอก

A: หนักแน่นไว้

B: ฉันบอกพวกเขาไปแล้วว่าไม่จริง แต่พวกเขาไม่เชื่อฉันหรอก พ่อฉันบอกว่าเขาสงสัยเหมือนกัน”

“A: เป็นเพราะเธอได้รับการยืนยันว่าติดไวรัสหรอ? ฉันสงสัยอยู่ว่าฉันควรบอกตอนไหน

B: สำหรับคนอย่างเรา การถูกเปิดโปงมันน่ากลัวว่าไวรัสเยอะ”

จากการที่พวกเขาถูกปกปิดเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ พ่อแม่ของสาวก B บอกว่าถ้าไม่ใช่เป็นเพราะเธอติดเชื้อไวรัส พวกเขาก็จะไม่มีทางรู้เลยว่าเธอไปเข้าร่วมลัทธิชินชอนจิ

“ผมรู้สึกว่าถ้าไม่เกิดเรื่องนี้ขึ้น ผมจะไม่มีทางรู้เลย มันทำให้ผมรู้สึกรังเกียจ เราอยู่ในบ้านเดียวกันแท้ๆ นะ พระเจ้า....” – พ่อ

ถึงแม้จะมีการยืนยันแล้วว่ามากกว่าครึ่งของผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าในเกาหลีมีความเกี่ยวข้องกับลัทธิชินชอนจิ (สาขาแดกู) ในเกาหลี แนวโน้มที่สาวกของลัทธิชินชอนจิจะปิดบังตัวตนเอาไว้ได้ก็กลายเป็นเรื่องยากที่จะปกป้องความปลอดภัยของรายชื่อผู้เข้าร่วมลัทธิจากการที่ถูกเปิดเผยแล้ว

ก่อนการแพร่ระบาดของ COVID-19 จากการเข้าร่วมลัทธิชินชอนจิในแดกู ตัวเลขของผู้ติดเชื้อไวรัสนั้นอยู่ที่ 30 คน แต่จากเหตุการณ์นั้นทำให้ตัวเลขของผู้ติดเชื้อในตอนนี้อยู่ที่ 1,766 คนภายในเวลาแค่สัปดาห์เดียวเท่านั้น!