อีดงวุค (Lee Dong Wook) พูดคุยเกี่ยวกับอาชีพของเขา ความคิดเห็นจากสาธารณชม และรายการทอล์คโชว์ที่กำลังจะมี
2019-11-20 10:03:29
Advertisement
คลิก!!!

 

อีดงวุค (Lee Dong Wook) เป็นหนึ่งในหนุ่มที่ได้รับตำแหน่ง “Men of the Year” จากนิตยสาร GQ เกาหลีเป็นเวลา 2 ปีติด และเขาเข้าร่วมการถ่ายภาพแฟชั่นของนิตยสารดังกล่าวและพูดถึงเรื่องอาชีพของเขาและเรื่องอื่นๆ ด้วยเช่นกัน

นักแสดงหนุ่มเป็นหนึ่งใน 4 หนุ่มที่ได้รับตำแหน่งในปีนี้ร่วมกับ ซงมิโน (Song Mino) จาก WINNER, โอฮยอก (Oh Hyuk) และมินฮยอน (Minhyun) จาก NU’EST เขายังเคยได้รับเลือกเป็น “Men of the Year” ของนิตยสารดังกล่าวในปี 2018 ด้วยเช่นกัน

อีดงวุครับการท้าทายในการถ่ายแฟชั่นด้วยธีมมิคกี้เมาส์กับผมยาวๆ และเขาบอกว่าเขาสนุกในการถ่ายภาพแฟชั่นนี้ “มันมอบโอกาสในการโชว์อะไรที่น่าเซอร์ไพรส์ให้กับผมครับ” เขาบอก “มีผมยาวๆ ถูกต่อใส่เข้ามาในผมของผม และนี่เป็นครั้งแรกที่ผมถ่ายภาพแฟชั่นแล้วใช้พร็อพตลกๆ ครับ”

เมื่อถูกถามว่าเขาโตเกินไปแล้วที่ชอบมิคกี้เมาส์หรอ อีดงวุคตอบว่า แน่นอนว่าเขาไม่โตเกินไป “เมื่อไหร่ก็ตามที่ผมไปต่างประเทศ ผมจะไปร้านดิสนีย์แลนด์ตลอดครับ” เขาบอกว่า “การไปที่นั่นทำให้ผมร่าเริงขึ้นครับ ถึงผมจะแก่จนกลายเป็นคุณตา แต่ความรู้สึกแบบนั้นก็จะไม่เปลี่ยนไปครับ”

เร็วๆ นี้อีดงวุคจะจัดรายการทอล์คโชว์ของตัวเอง และเขาเล่าเรื่องความรู้สึกของเขาตอนที่ถูกเสนอไอเดียให้ทำรายการของตัวเองให้ฟังว่า “ตอนแรกผมพูดว่า ‘ทำไมถึงถามผมล่ะครับ?’” เขาอธิบายว่า “โปรดิวเซอร์ติดต่อผมมาหลังจากเห็นบทสัมภาษณ์ที่ผมพูดว่าผมอยากทำรายการทอล์คโชว์และพวกเขาเจอรายการที่ผมเคยเป็นพิธีกรมาก่อนครับ 2 ปีก่อนในงานแฟนมีทติ้ง ผมจัดทอล์คโชว์สไตล์อเมริกันกับกงยู (Gong Yoo) ชื่อว่า ‘อีดงวุคโชว์’ และเขาบอกว่าเขาเห็นอันนี้ด้วยเหมือนกัน ผมคิดเรื่องนี้เยอะมากครับ ผมอยากทำแต่ผมก็กลัว แต่ผมคิดว่ามันจะต้องมีความสนุกที่ผมหาไม่ได้ในการแสดงแน่ๆ ครับ”

เมื่อถูกถามว่าอะไรที่ทำให้เขาสนใจรายการทอล์คโชว์เป็นพิเศษ อีดงวุคอธิบายว่าเขาเป็นคนเงียบๆ และเก็บตัวมากตอนที่เขาเป็นเด็กและเขาพยายามที่จะเปลี่ยนนิสัยส่วนนั้นของเขาในขณะที่เขาทำงาน “ผมอยากจะพูดเยอะๆ และพยายามที่จะเป็นคนนำในบทสนทนาครับ” เขาบอกว่า “มันสร้างความสุขเล็กน้อยให้ผมครับ และผมพัฒนาขึ้นเวลามีบทสนทนากับคนอื่น ผมอยากจะทดสอบตัวเองเพื่อดูว่าผมเก่งแค่ไหนในการจัดรายการและผมเก่งพอไหมที่จะทำให้คนอื่นหัวเราะครับ”

อีดงวุคยังพูดถึงแพลนในอนาคตของเขาอีกด้วย “ถ้าทุกอย่างเป็นอย่างที่ผมต้องการ แน่นอนว่าผมอยากจะทำงานแสดงต่อไปครับ” เขาบอกว่า “ผมรักงานนี้จริงๆ และมันทำให้ผมมีความสุขที่มีแฟนคลับเช่นกันครับ แต่เพราะมันเป็นอาชีพที่ผมต้องได้รับเลือก มันก็เลยไม่ได้เป็นอย่างที่ผมต้องการตลอดครับ นั่นเลยเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมต้องพยายามอย่างหนักครับ”

เป็นเวลา 20 ปีแล้วตั้งแต่อีดงวุคเดบิวต์เข้าวงการการแสดง และเขาถูกถามให้มองย้อนกลับไปที่อาชีพของเขาและอธิบายว่าเขาเจอกับประสบการณ์ที่รู้สึกดีหรือรู้สึกแย่มากกว่ากัน “ไม่ว่ามันจะเป็นซีรีส์, ภาพยนตร์, รายการวาไรตี้โชว์ หรืออะไรก็ตาม ผมไม่ค่อยมีประสบการณ์ที่ผมรู้สึกสบายๆ มากเท่าไหร่ครับ” เขาบอกว่า “มันจะมีเวลาที่กังวลและเจ็บปวดครับ และเรื่องที่ผมรู้สึกว่าผมถึงจุดที่ทำอะไรต่อไม่ได้แล้วเหมือนชนกำแพงเหมือนกันครับ ผมอดทนกับมันด้วยความรู้สึกยินดีเพื่อที่จะผ่านความรู้สึกแบบนั้นไปในแต่ละครั้ง แต่ผมไม่มีความสุขกับการทำแบบนั้นเลยครับ ความรู้สึกไม่สบายใจจะยังอยู่ในอนาคตเช่นกัน ผมคิดว่าผมไม่มีแพลนสำหรับเรื่องการแสดงที่เพอร์เฟคต์หรือชีวิตที่เพอร์เฟคต์ ผมแค่ไม่ถอดใจหรือไม่วิ่งหนีไปครับ และผมก็ก้าวไปข้างหน้าอยู่ตลอดในขณะที่ท้าทายตัวเองให้เผชิญหน้ากับสิ่งเหล่านั้นครับ”

อีดงวุคอธิบายถึงแฟนคลับของเขาว่าเป็นสิ่งที่ทำให้อาชีพที่เขาทำมา 20 ปีนั้นคุ้มค่ากับเวลา “เมื่อเร็วๆ นี้ผมจัดงานแฟนมีทติ้งและมีคนขอบคุณผมที่ทำให้พวกเขาภูมิใจที่เป็นแฟนคลับของอีดงวุคครับ” เขาพูดว่า “ผมรู้สึกขนลุกไปทั้งตัวเลยครับ เพราะผมไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องง่ายสำหรับผมที่จะชอบคนอื่นขนาดนั้นครับ”

เมื่อถูกถามถึงผลงานของเขาที่อยากจะเอามารวบรวมไว้ใน “งานนิทรรศการพิเศษฉลองครบรอบ 20 ปี” ในจินตนาการ อีดงวุคตอบว่าเขาไม่สามารถทิ้งผลงานเดบิวต์ของเขาได้จริงๆ

“ตอนที่ผมอยู่ไฮสคูลปี 3 ผมได้งานในซีรีส์เรื่อง ‘Best Theater – There’s A World Outside Of This Path’ ตอนนึง ซึ่งผมยังเด็กแล้วก็ยังไม่รู้อะไรเลยครับ” เขาบอกว่า “แล้วก็เรื่อง ‘My Girl’ ที่ผมรับบทนำเรื่องแรกและทำให้ผมได้รับความรักมากมาย และเรื่อง ‘A Bittersweet Life’ ซึ่งมันยากมากในเรื่องอารมณ์เหมือนกับมันเป็นกำแพงที่ใหญ่มากในขณะที่ผมแสดงครับ ถ้าผมเลือกได้อีกอันนึง ผมจะเลือก ‘Goblin‘ ที่สร้างให้อีดงวุคมีอยู่ในทุกวันนี้ครับ”

ผู้สัมภาษณ์พูดถึงเรื่องที่เขาพูดกับ GQ เมื่อปีที่แล้วด้วยเช่นกัน อีดงวุคเคยบอกว่าเขาเจอเรื่องยากลำบากมากมายในขณะถ่ายทำซีรีส์เรื่อง “Life” และเขายังรู้สึกผิดหวังในตัวเองอีกด้วย

เมื่อถูกถามว่าเขารู้สึกอย่างไรกับ “Strangers from Hell” อีดงวุคตอบว่า “ระดับความพึงพอใจส่วนตัวของผมยังเหมือนเดิมครับ จากความสำเร็จของซีรีส์ ผมรู้สึกว่าผมยังขาดอะไรบางอย่างในเรื่องการแสดงไปครับ ในกรณี ‘Strangers from Hell’ ผู้กำกับเหมือนเป็นเสาหลักให้กับผมเมื่อไหร่ก็ตามที่ผมลังเลครับ เขาแนะนำผมเป็นอย่างดี ในทางตรงกันข้ามกับเนื้อเรื่องในซีรีส์ บรรยากาศในกองถ่ายดีมากครับ ผมรู้สึกได้ว่าทีมงานของเราทำหน้าที่ได้ดีมากครับ ผมได้รับคำชมจากการแสดงในซีรีส์ แต่ถ้าผมมีส่วน 50% งั้นทีมงานก็มีส่วน 90-100% เลยครับ”

อีดงวุคได้รับกำลังใจจากผู้สัมภาษณ์ว่าอย่าวิจารณ์ตัวเองจนมากเกินไป และบอกว่าเขารู้สึกอินไปกับเรื่อง “Strangers from Hell” เพราะการแสดงของอีดงวุค ไม่ใช่เพราะหน้าตา

“ผมไม่ค่อยได้ยินคำชมแบบนั้นบ่อยนักครับ” อีดงวุคบอกว่า “ผมคิดว่ามันเป็นทางเลือกที่ดีที่จะรับงานประเภทที่หลากหลาย อย่างเรื่อง ‘Life’ และ ‘Strangers from Hell’ ครับ อีดงวุคเล่นเป็นคนโรคจิตหรอ? ผมคิดว่าผู้คนจะไม่ได้คาดหวังอะไรมากแต่จากนั้นพวกเขาก็ดูซีรีส์เรื่องนี้และมันดีกว่าที่พวกเขาคิดครับ เมื่อไหร่ก็ตามที่ผมถูกถามว่านักแสดงแบบไหนที่ผมอยากเป็น คำตอบของผมก็คืออยากเป็นนักแสดงที่ผู้คนเชื่อใจครับ”

มีการพูดถึงเรื่องที่อีดงวุคพูดในงานแฟนมีทติ้งว่า “มันเหมือนๆ กันในคนดังทุกคน ไม่ใช่ทุกคนที่ชอบผมได้ แต่ทำไมผลถึงถูกเกลียดแบบนี้จากคนที่ผมไม่รู้จักด้วยล่ะครับ?” ผู้สัมภาษณ์เล่าว่าแปลกใจกับคำพูดนั้นของอีดงวุคและถามว่าเขาเคยถูกเกลียดด้วยหรือไม่

“ผมไม่เคยโดนเกลียดมากมายหรือผ่านเรื่องร้ายแล้วก็เรื่องดีที่ยิ่งใหญ่ครับ” เขาบอกว่า “แต่ว่าผมก็เป็นคนสาธารณะของทุกคนมาตลอด 20 ปี แน่นอนว่าผมถูกตัดสินจากคนที่ผมไม่รู้จักหรือได้ยินเรื่องแย่ๆ ครับ ผมคิดว่าผมผ่านเรื่องนั้นมาได้อย่างใจเย็น แต่เมื่อผมมองย้อนกลับไป มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยครับ แต่ผมก็ยังคิดว่าผมทำได้ดีในการอดทนกับมัน นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมพูดแบบนั้นครับ”

หลังจากทำความฝันในการจัดรายการทอล์คโชว์ของตัวเองสำเร็จ อีดงวุคก็ถูกถามว่าอะไรที่เขาอยากทำอีก เขาตอบว่า “ผมอยากจะรับบทและงานแบบ ‘Strangers from Hell’ ที่ผู้คนสามารถรู้สึกได้ถึงสิ่งใหม่ๆ จากผมครับ” เขาบอกว่า “ยิ่งไปกว่านั้น ผมอยากจะทำอะไรก็ตามที่อยู่ตรงหน้าผมให้ออกมาดีครับ ผมควรทำได้ดีกับทอล์คโชว์และประสบความสำเร็จด้วย!”

GQ บอกว่าพวกเขาจะได้เจออีดงวุคอีกกับตำแหน่ง “Men of the Year” ของปี 2020 และถามอีดงวุคว่าคิดยังไงกับเรื่องนี้ เขาตอบว่า “มันยอดเยี่ยมที่จะได้เจอกันแบบนี้ปีละครั้งครับ” เขาบอกว่า “มีใครเคยได้รับเลือก 2 ปีติดไหมครับ? เข้าใจแล้วครับ ไม่มีใครเคยได้มาก่อน งั้นผมจะทำงานอย่างหนักเพื่อที่เราจะได้มาเจอกันอีกในปีหน้าครับ”

ที่มา  http://www.gqkorea.co.kr

แปลโดย  http://popcornfor2.com

 

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X