|
ยืนรออยู่หน้าบ้าน...ขับรถไล่ตาม หรือจองตั๋วเครื่องบินไฟล์ทเดียวกันเพื่อให้ได้เจอกับไอดอลที่ตัวเองชื่นชอบ นี่คือกิจวัตรประจำวันของแฟนคลับที่คลั่งไคล้ไอดอลจนเกินขอบเขต หรือที่หลายคนเรียกว่า ซาแซงแฟน
ไม่ว่าจะยุคไหน ผ่านไปกี่ปี ซาแซงแฟนก็ยังไม่หมดไปจากวงการเคป็อป ความรักของแฟนคลับเหล่านี้ กลายเป็นความคลั่งไคล้ และนำมาสู่การไม่มีความยับยั้งช่างใจ กลายเป็นการก่อกวนไอดอลไปในที่สุด
แต่ไม่ได้หมายความว่าใครเป็นซาแซงแฟนแล้วต้องเป็นตลอดไป...มีบางคนที่หยุดพฤติกรรมไม่พึงประสงค์เหล่านี้เอาไว้ได้ อะไรทำให้พวกเขาเปลี่ยนแปลงตัวเอง?
หนทางสู่ความหลงใหล
แฟนคลับหลายคนมักตกหลุมรักไอดอลเกาหลี เริ่มจากผลงานเพลงของพวกเขา รวมถึงภาพลักษณ์ หลายคนชื่นชอบไอดอลเคป็อปในระดับทั่วไป แต่สำหรับบางคนพวกเขาควบคุมตัวเองเอาไว้ไม่ได้
เมื่อไม่นานมานี้ได้มีอดีตซาแซงแฟนออกมาเล่าเรื่องที่เคยใช้ชีวิตเป็นพวกสตอล์กเกอร์ โดยไม่ได้เปิดเผยตัวตนผ่านทางการสัมภาษณ์ใน Korea Scouter TV ทาง Youtube
เธอบอกว่าแรกเริ่มเธอไม่ได้ตั้งใจจะกลายมาเป็นซาแซงหรอก ไม่ได้สนใจวงการเพลงเคป็อปด้วยซ้ำ แต่หลังจากได้ดูวิดีโอที่แฟนคลับไปถ่ายไอดอลมา ทำให้เธอตกหลุมรักเขา
เธอเลยเริ่มเข้าสู่โลกของสตอล์กเกอร์ เมื่อตัวเองรู้สึกว่าการฟังเพลงอย่างเดียวไม่สามารถทำให้เธอพอใจได้อีกต่อไป เธออยากเจอไอดอลตัวเป็นๆ
หลังจากนั้นเธอเลยได้เจอแฟนคลับคนอื่นที่ตามไอดอลไปทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร, คาเฟ่ และคอนเสิร์ต
แต่ละวันตารางชีวิตของเธอประกอบไปด้วย รอไอดอลอยู่ในคาเฟ่แถวบริษัทของพวกเขา และหาว่าไอดอลเหล่านั้นไปถ่ายงานที่ไหนบ้าง เพื่อจะได้ตามไปเจอไอดอลที่ตัวเองชอบ
เธอบอกว่าใช้ชีวิตแบบนี้อยู่เกือบปีครึ่ง ถึงกับหยุดเรียนเพื่อมาตามไอดอลแบบจริงจัง
ตื่นจากฝัน
หลังจากมีข่าวไอดอลที่เธอชอบออกเดท เธอก็เหมือนตื่นจากฝัน และแฟนคลับที่เป็นเหมือนเธอบางคนได้รู้สึกตัวแล้วว่าทำเรื่องไม่ดีลงไป อีกทั้งทางต้นสังกัดยังเข้มงวดและดำเนินการกับซาแซงแฟนจริงจังมากขึ้นอีกด้วย ใครที่ยังไม่หยุดตามไอดอลแบบนี้จะติดแบล็คลิสต์
ตัวอย่างเช่นก่อนหน้านี้ที่ SM Entertainment ได้ประกาศจับกุม ซาแซง 2 คนที่พยายามเข้าไปในสตูดิโอของชานยอล วง EXO เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา
อดีตซาแซงที่ให้สัมภาษณ์บอกว่า สุดท้ายสิ่งที่คุณทำไปก็จะทำให้หัวใจของคุณเจ็บปวดเอง พร้อมทั้งเตือนคนที่หลงใหลไอดอลมากเกินไปว่า “ไม่ว่าคุณจะเสียเงินตามพวกเขาไปมากเท่าไหร่ ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปหรอก”
“อะไรที่เป็นไปไม่ได้ มันก็ไม่มีวันเป็นไปได้นั้นแหละ”
ที่มา https://www.allkpop.com
แปลโดย http://popcornfor2.com