The Cabin In The Woods สูตรหนังสยองขวัญที่แตกต่าง
2012-05-07 16:58:48
Advertisement
คลิก!!!

The Cabin In The Woods สูตรหนังสยองขวัญที่แตกต่าง

ใครที่เป็นคอหนังแนวสยองขวัญวัยรุ่นฝั่งฮอลลีวูดยุคเก่าก็คงจะรู้กันดีอยู่แล้ว ว่ากฎหวีดสยองขวัญที่กลายเป็นสูตรสำเร็จที่หนังแนวนี้จะต้องมีเป็นยังไง

โดยข้อแรกที่ใคร ๆ ก็รู้นั่นก็คือ ตัวหนังจะต้องเป็นการรวมตัวกันของกลุ่มวัยรุ่นที่มีความแตกต่างกันอย่างสุด ขั้วจนไม่น่าจะคบกันได้ เพื่อออกเดินทางไปปาร์ตี้ช่วงสุดสัปดาห์ในบ้านพักสุดชิวอันห่างไกลไร้ผู้คน จนคนปกติไม่มีทางคิดจะไป

ด้านบุคลิกที่แตกต่างของตัวละครนั้นจะถูก กำหนดให้มีเพียงแค่ 5 ประเภทนั่นก็คือ สาวผมบลอนด์ทรงโตสุดเซ็กซี่ร่านสวาท, หนุ่มนักกีฬากล้ามโตจอมวางก้าม, นักเรียนสุดเนิร์ดที่ฉลาดเป็นกรด, ตัวตลกขี้ยาที่มักจะตายแบบง่าย ๆ และสาวสวยเวอร์จิ้นขี้ระแวงที่มักทะเล่อทะล่าในสถานการณ์ตึงเครียด มีครบ 5 บุคลิกนี้ก็เดาทางได้แล้วว่านี่คือหนังสยองขวัญแน่นอน

ส่วนข้อ 2 รถที่ตัวละครทั้งหมดเดินทางไปนั้นจะต้องแวะพักหรือเติมน้ำมันในปั๊มโทรม ๆ ประหนึ่งถูกทิ้งร้างมานานนับกึ่งศตวรรษ และมินิมาร์ตที่นอกจากคอร์นเฟลกส์บูด ๆ ที่ตั้งอยู่บนชั้นวางของ ก็จะมีซากสัตว์ที่ถูกแขวนไว้แบบไร้เหตุผล พร้อมด้วยชายแก่ท่าทางสุดสถุลที่ออกมามีปากเสียงกับตัวละครนำพองาม ก่อนจะเตือนว่าไม่ควรไปต่อแบบกำกวมให้งงเล่น ๆ แต่คิดเหรอว่าจะมีใครเชื่อ เพราะต่อให้เตือนตรง ๆ ก็ไม่มีตัวละครในหนังสยองขวัญเรื่องไหนยอมหันรถกลับอยู่แล้ว

ข้อ 3 นี้ถ้าไม่มีมันจะแปลกมากนั่นก็คือ "เซ็กส์" เพราะมีอยู่ทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็น "สครีม", "ศุกร์ 13 ฝันหวาน (เจสัน)" หรือ "A Nightmare on Elm Street (เฟรดดี้ ครูเกอร์)"

มาต่อกันที่ ข้อ 4 มักจะมีเหตุการณ์ให้ตัวละครเอกทำเรื่องโง่ อย่างการหยิบของจำพวกเครื่องรางหรือของต้องสาปขึ้นมา และเปิดผนึกปลุกปีศาจออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจอยู่เสมอ ๆ อย่างเช่นเรื่องไอ้หัวตะปู "Hellraiser" ที่พอเปิดกล่องปริศนาหายนะก็มาเยือนทันที

มาถึงข้อที่ 5 เวลาเกิดเหตุการณ์สุดเลวร้ายขึ้นในเรื่อง ตัวละครทุกคนจะไม่มีความคิดประเภท "รวมกันเราอยู่" แต่จะมาแนว "แยกกันอยู่ตายทีละคนเสมอ" ข้อสุดท้ายคือ ตอนจบผู้รอดชีวิตมักจะเป็นสาวเวอร์จิ้นเสมอ ส่วนตัวละครอื่น ๆ ก็มักจะตายกันหมด แน่นอนว่าทั้งหมดที่ร่ายยาวกันมาตั้งแต่ต้น คือกฎอันเป็นสูตรสำเร็จของหนังสยองขวัญทุกเรื่องที่ควรมี ดังนั้นหนังหวีดสยองอย่าง "The Cabin In The Woods"

ก็ไม่พลาดที่จะ เดินตามแนวทางนี้ เพียงแต่เนื้อหาของเรื่องไม่ได้ตื้นจนใครเห็นโปสเตอร์หนังที่แปะอยู่ตามโรง หนังก็เดาตอนจบออก เนื่องจากมันพลิกผันให้คนดูตื่นเต้นและร้อง "เฮ้ย...มันมีอย่างนี้ด้วยเหรอ" กันตลอดเวลา

แต่ถ้าหากจะบอกว่า The Cabin In The Woods เดินตามขนบเดิม ๆ เป๊ะก็เห็นว่าจะไม่ถูกสักเท่าไรนัก เพราะการได้ "ดรูว์ ก็อดดาร์ด" ผู้เขียนบทหนัง "Cloverfield" และ "จอส วีดอน" ผู้กำกับหนังบล็อกบัสเตอร์อย่าง "The Avergers" ทำให้หนังเรื่องนี้เป็นหนังสยองขวัญที่มีส่วนผสมของ "หนังเรียลิตี้" และ "หนังกู้โลก" ในเวลาเดียวกัน

พอได้ยินว่าเป็นหนังแนวเรียลิตี้ถ่าย ทอดออกทีวี ก็อย่าเพิ่งโวยวายว่าหน้าหนังคงเหมือน "รับน้องสยองขวัญ" ของไทยที่ไม่ค่อยเวิร์กสักเท่าไรนัก แม้ว่าช่วงกลางเรื่องจะชวนให้คิดแบบนั้นก็เถอะ เพราะถ้าดูกันไปเรื่อย ๆ ก็จะเห็นว่ามันมีปมที่แตกต่างจนพัฒนาขึ้นไปเป็นหนังแนวกู้โลกที่เผลอ ๆ อาจจะสนุกกว่า The Avergers เสียด้วยซ้ำไป

ไม่อย่างนั้นบรรดากูรู หนังสยองขวัญคงจะไม่ออกมาชมหนังเรื่องนี้กันอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น "ฌอน มันโร" จาก What Culture ที่กล่าวว่า "นี่คือหนังสยองขวัญที่ทั้งมันส์และสะใจที่สุดในรอบหลายปี The Cabin In The Woods คือการไถ่โทษให้กับสาวกหนังสยองขวัญที่ผิดหวังในทิศทางของแนวหนังในช่วง ทศวรรษที่ผ่านมา"

หรือแม้แต่ "ทอดด์ กิลไครส์" จาก Chiller TV ก็ยังยกนิ้วให้พร้อมชมว่า "เตรียมใจไว้ให้ดี เพราะทุกอย่างที่คุณรู้เกี่ยวกับหนังสยองขวัญจะถูกหนังเรื่องนี้ทำลายลง อย่างสิ้นเชิง" เพียงแต่ตัวหนังจะออกมาดีอย่างที่บรรดากูรูเหล่านี้ว่าหรือไม่นั้น ก็คงต้องไปพิสูจน์กันเองในโรงเท่านั้น

onlyfans leaked xxx onlyfans leaked videos xnxx 2022 filme porno filme porno
.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X