“เกรซ” ปัดทำงานคู่ “ก้อง” แล้วเรื่องมาก บอกจะเข้าไปยุ่งเฉพาะเรื่องเสื้อผ้าและท่าโพสต์เพื่อไม่ให้ดูโป๊ะมากกว่า ฟุ้งความรักดีขึ้นเรื่อยๆ ฝ่ายชายพาเจอพ่อ-แม่แล้ว

หลังจากเปิดตัวว่ากำลังคบหาดูใจกัน สำหรับคู่ของนางเอกสาวโอโม่ “เกรซ กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า” กับหนุ่มไฮโซ “ก้อง กรุณ ซอโสตถิกุล” ก็โดนจับตามองเป็นพิเศษ ถึงจะไม่ค่อยออกงานคู่กันสักเท่าไหร่ แต่ล่าสุดก็มีกระแสข่าวออกมาว่า มีหนังสือแฟชั่นฉบับหนึ่งแฉว่า หลังได้ร่วมงานกับ “เกรซ-ก้อง” แล้วเรื่องเยอะทั้งคู่ โดนแดดก็โวย งานเข้าขนาดนี้สาวเกรซเลยขอแจงซะหน่อย

“เรื่องเยอะอะไร ไม่มีค่ะ ไม่ได้ขนาดนั้น เขาให้ใส่อะไรก็ใส่ ไม่ได้เรื่องเยอะอยู่แล้วค่ะ เรื่องแดดบอกว่าแรงก็ไม่ใช่ค่ะ มันไม่ได้ถึงขั้นกลัวแดด แต่ว่าอยากให้ถ่ายที่แดดแรงด้วยซ้ำ เพราะว่าแสงแดดถ้าถ่ายที่แดด แสงมันจะออกมาสวย มันไม่เหมือนถ่ายละคร ถ่ายแบบมันต้องเจอแสงค่ะ มันถึงจะสวย”
“ไม่กลัวคนมองเป็นคู่รักเรื่องเยอะค่ะ เพราะว่าเราก็ต้องดูมุม เพราะว่าเราไม่ค่อยเรื่องมากในเรื่องเสื้อผ้าสักเท่าไหร่ แต่ว่าเรื่องของท่าโพสต์แฟชั่นเสื้อผ้าดูโดยรวม คุณแม่จะดูให้เป็นส่วนใหญ่ว่าโป๊มั้ยอะไรยังไง ไม่ใช่ว่าจะไปเรื่องมากอะไรแบบนั้น จะดูภาพลักษณ์ภาพพจน์มากกว่าค่ะ”

โวความรักตอนนี้ดีขึ้นเรื่อยๆ มีการพาไปเจอพ่อแม่กันแล้ว

“ความรักก็ดีค่ะ ไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยขึ้น ก็เป็นปกติ เพราะว่าเรามีเวลาเจอกันบ่อยมากขึ้นค่ะ (มีข่าวว่าพอเปิดตัวว่าเป็นแฟนกันเกรซตามติดก้อง?) โหไม่น่าจะใช่นะคะ เกรซคงไม่มีเวลาตามติดพี่ก้องขนาดนั้น แล้วปล่อยให้เขามีเพื่อนมีอะไร เพราะว่าความสัมพันธ์ของเรา เราไม่ได้ซีเรียสอะไร เกรซก็ยังไปกับเพื่อนเกรซ เขาก็ไปกับเพื่อนเขา มันก็ไม่ถึงขนาดนั้น แค่เรามีเวลาเจอกันบ่อยขึ้น”

“พี่ก้องพาไปรู้จักกับเพื่อนๆ เกือบหมดทุกคน อันนี้ก็รู้จักกับเพื่อนๆ เขาอยู่แล้ว แต่ว่าไม่ได้รู้จักทุกคน ก็อาจจะรู้จักเพื่อนเขาเยอะขึ้นบ้าง เพื่อนสมัยเรียนบ้าง แต่ไม่ถึงขนาดว่าไปแนะนำเพื่อนๆ อย่างเป็นทางการอะไร ก็เป็นเพื่อนกันก็แนะนำให้รู้จักทำนองนี้มากกว่าค่ะ”

“อย่าเพิ่งเรียกว่าแฟนดีกว่าค่ะ แต่เป็นคนสนิทค่ะ เรียกแบบนี้ดีกว่า มันดูน่ารักกว่า ถึงจะสักพักหนึ่งแล้ว คือเกรซคิดว่ามันไม่จำเป็นว่าจะเรียกว่าแฟนหรือไม่แฟน คือเราไม่ต้องไปซีเรียสกับมัน สบายๆ เราไม่ต้องไปกดดันตัวเอง ไม่ต้องมีเรื่องให้ต้องวิตกกังวล ไม่ต้องคิดว่าใครเขาจะคิดยังไง เพราะเราเองก็ไม่สามารถที่จะไปอธิบายให้ใครเข้าใจอะไรหลายๆ อย่างได้ เอาเป็นว่าเราสบายๆ ใจแบบนี้ก็แล้วกัน”

“เจอพ่อแม่พี่ก้อง ก็ได้เจอทางที่บ้านเขาแล้วค่ะ ที่บ้านพี่เขาก็น่ารักดี อบอุ่นค่ะ ถ้าใครได้รู้จักจะรู้ว่าครอบครัวพี่เขาน่ารักอบอุ่นค่ะ ท่านก็เป็นกันเองถือว่าเป็นผู้ใหญ่ที่เกรซให้ความเคารพอีกคนหนึ่งค่ะ เรียกแบบนี้ดีกว่า มาจากครอบครัวที่ดี กับเกรซครอบครัวเขาก็ยินดีต้อนรับ พี่ก้องเขาก็แนะนำเกรซในฐานะเป็นน้องคนหนึ่งค่ะ อายุห่างกันที่บ้านเขาก็ไม่ได้แซวอะไร รู้จักกันหลายๆ คน เขายินดีต้อนรับค่ะ น่ารักค่ะ เป็นกันเองไม่ทำให้เรารู้สึกเกร็ง สนิทกับญาติๆ พี่ก้องเพราะด้วยวัยที่ใกล้กันมีอะไรก็จะปรึกษากัน”

“ส่วนครอบครัวเกรซพี่ก้องก็ได้เจอค่ะ กับคุณแม่ก็เจอ บางทีพี่เขามารับเกรซไปทานข้าว หรือมารับกลับจากทำงานก็จะได้เจอกับคุณแม่ เพราะว่าคุณแม่ไปทำงานกับเกรซค่อนข้างบ่อย ซึ่งคุณแม่ท่านก็โอเค เพราะว่าท่านก็ไม่ได้ว่าอะไรตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เพราะว่าข่าวที่เคยออกมาก็เป็นข่าวโคมลอย มันไม่ได้มีอะไร ท่านก็ไว้ใจพี่ก้องในระดับหนึ่ง เพราะว่าคนเป็นแม่ก็ต้องเป็นห่วงธรรมดา แต่ด้วยความที่พี่ก้องเขาค่อนข้างเป็นผู้ใหญ่แล้ว แล้วด้วยตัวเกรซเองพอมีอะไรก็จะเล่าให้ท่านฟัง แต่ถ้าถามว่าผู้ใหญ่ทั้งสองไฟเขียวมั้ยก็ต้องถามเขาเองดีกว่า”

บอกฝ่ายชายกำลังจะมีละคร ตนก็ให้คำแนะนำบ้าง

“พี่ก้องก็กำลังจะเล่นละครค่ะ เขาก็มีถามบ้างว่าการทำงานเป็นยังไง เราก็อธิบายโดยพอสังเขปเท่าที่เราสัมผัสได้ เราก็เข้าวงการมาสักพักหนึ่งไม่ได้ยาวนาน เป็นนักแสดงเก่าแก่อะไรมาก แต่รู้สึกว่าเดี๋ยวเขาต้องไปเรียนแอ็คติ้งเพิ่ม ถ้ามีโอกาสเล่นละครด้วยกันน่าจะยากค่ะ เขินนะคะ แต่ว่าถ้ามีโอกาสจริงๆ ก็ได้ค่ะ โอเค เพราะว่าก็ถือว่าเป็นการทำงาน”

http://www.manager.co.th