นักวิจารณ์และทนายความได้ร่วมพูดคุยเกี่ยวกับคดีของซึงริ (Seungri)
2019-05-16 18:51:25
Advertisement
คลิก!!!

 

ผู้เชี่ยวชาญหลายสาขาได้ออกมาพูดถึงกรณีของ Burning Sun ว่าพวกเขามีความคิดเห็นเช่นไรกันบ้าง ลองไปฟังความเห็นของผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้านเกี่ยวกับข่าวเสียหายเรื่องนี้กัน

จองด๊อกฮยอน (Jung Deok-Hyun) นักวิจารณ์วัฒนธรรมป๊อป ได้พูดถึงเรื่องนี้ว่า “เนื่องจากซึงริเป็นคนดังในวงการบันเทิง ทำให้ข่าวของเขาได้รับความสนใจ และผู้คนต่างตั้งคำถามว่าเขามีอำนาจพอที่จะทำเรื่องผิดกฎหมายเหล่านั้นได้จริงเหรอ”

จองด๊อกฮยอน ได้พูดไว้ในรายการ CBS NoCut News เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ว่า “ขนาดผมยังคิดเลยว่าเรื่องแบบนี้คงมีแต่ที่ประเทศอื่น และคงมีแต่ในหนัง ทำให้เป็นเรื่องช็อคมากที่รู้ว่าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นจริงในประเทศของเรา”

สำหรับเรื่องที่ศาลปฏิเสธการออกหมาบจับซึงริ ทนาย A ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า “การค้าประเวณีดูว่าเป็นการทำผิดศีลธรรมอันเลวทราม แต่ความผิดในข้อหาค้ามนุษย์เพื่อบริการทางเพศนั้นก็มีโทษไม่ได้หนักมาก แล้วยิ่งเป็นการกระทำผิดครั้งแรกด้วยแล้ว จึงเป็นเรื่องยากที่จะจับกุมตัวเขา”

ทนาย B บอกว่า “หมายจับอาจจะถูกอนุมัติถ้าพิจารณาแล้วมีความตั้งใจที่จะหลบหนี แต่กรณีของซึงรินั้นบอกยากเหมือนกัน  เข้าใจการขอหมายจับเกิดขึ้นเพราะว่ามีการแจ้งความเกี่ยวกับอาชญากรรม แต่หมายจับก็ถูกปฏิเสธได้เพราะว่าผู้กระทำผิดไม่ได้มีเจตนาหลบหนี แต่ลองคิดดูว่าทีมนี้มีตำรวจถึง 152 คน และตำรวจ 16 ทีมได้เรียกตัวเขามาสอบปากคำไปแล้ว 18 ครั้ง คิดว่าพวกเขากำลังสืบสวนเรื่องอะไรกันแน่?”

ทนายความโชกีฮยอน (Cho Ki-Hyun) พูดถึงเรื่องนี้ว่า “ถ้าตัวผู้ต้องสงสัยถูกระบุชัดเจน และเขาหรือเธอไม่ได้มีเจตนาหลบหนี พวกเขาก็สามารถเข้ารับการสืบสวนโดยไม่ต้องถูกควบคุมตัวได้ โดยทั่วไปแล้ว การควบคุมตัวจะมีขึ้นเมื่อผู้ต้องสงสัยมีเจตนาหลบหนีหรืออาจพยายามทำลายหลักฐาน” นอกจากนี้ยังเพิ่มเติมว่า “สังคมของเราค่อนข้างจดจำการถูกควบคุมตัวว่าพวกเขาได้รับการลงโทษแล้ว ทำให้บางครั้งเข้าใจผิดว่าการที่หมายจับถูกปฏิเสธนั้นหมายถึงบุคคลนั้นรอดพ้นจากการลงโทษ ซึ่งไม่ใช่เช่นนั้น”

ในขณะที่ จองซูอี (Jung-Soo Lee) รองหัวหน้าจังหวัดซูวอน ประจำสำนักงานอัยการเกาหลี ได้ออกมาพูดถึงเรื่องบทบาทของสื่อในการนำเสนอข่าวนี้ว่า “จากมุมมองของสื่อกระแสหลัก ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่รับรู้ผ่านช่องทางนี้ สื่อสามารถทำเสนอได้อย่างอิสระ พร้อมพยายามนำเสนอความจริง แต่ปัญหาคือสื่อแต่ละช่องต่างแข่งขันกันเพื่อให้ได้ข่าว จนบางครั้งไม่ได้ยืนยันข้อมูลว่าเป็นเรื่องจริงหรือข่าวลือ การเสนอข่าวแบบนั้นอาจมีผลต่อการสืบสวนรวมถึงละเมิดสิทธิมนุษยชน ทางอัยการจึงอยากขอให้สื่อช่วยยืนยันข้อเท็จจริงของข่าวก่อนนำเสนอ และต้องห้ามนักข่าวเข้ามาในสำนักงานของอัยการ” จองซูอีเขียนข้อความนี้ไว้ในหนังสือ “ระบบอัยการของเกาหลี และทิศทางการสืบสวนของอัยการ”

 

ที่มา  https://www.allkpop.com

แปลโดย  http://popcornfor2.com

 

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X